fbpx

“เฉลิมชัย” สั่งปรับปรุงทะเบียนผู้เลี้ยงหมูรายย่อยเพื่อช่วยเหลือด่วน

กรุงเทพฯ 6 ม.ค. – รมว.เกษตรฯ สั่งกรมปศุสัตว์ขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรรายย่อยเพิ่มเติมเพื่อช่วยเหลือเบื้องต้นโดยด่วนและส่งเสริมการเลี้ยงในระยะยาว อธิบดีกรมปศุสัตว์ระบุ จะประชุมหารือกับสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติเพื่อสรุปแนวทางแก้ปัญหาราคาสุกรปรับสูงขึ้น เพื่อเสนอ Pig Board พิจารณาและเร่งดำเนินการเพื่อลดผลกระทบต่อประชาชน


นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กล่าวว่า จะเร่งดำเนินการแก้ปัญหาเนื้อสุกรแพงตามมาตรการที่กระทรวงเกษตรฯ และกระทรวงพาณิชย์หารือร่วมกันเพื่อลดผลกระทบต่อประชาชน นอกจากนี้ยังสั่งกรมปศุสัตว์เร่งขึ้นทะเบียนเกษตรกรรายย่อยเพิ่มเติมให้เร็วที่สุดเพราะเป็นกลุ่มผู้เลี้ยงสุกรที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาต่างๆ อย่างมากเพื่อช่วยเหลือในเบื้องต้นให้ทันสถานการณ์ รวมถึงให้เข้าถึงแหล่งสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำได้ง่ายและสะดวกรวดเร็วเพื่อใช้ในการปรับระบบการเลี้ยงให้ได้มาตรฐานป้องกันโรคระบาด รวมทั้งส่งเสริมการรวมกลุ่มและหาตลาดในราคาที่เกษตรกรอยู่ได้อย่างดี

นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ (7 ม.ค.) กรมปศุสัตว์จะหารือกับสมาคมเลี้ยงสุกรแห่งชาติเพื่อกำหนดแนวทางแก้ปัญหาราคาสุกรปรับสูงขึ้น รวมถึงมาตรการส่งเสริมการให้ผู้เลี้ยงรายย่อยและรายกลางที่หยุดเลี้ยง กลับมาเลี้ยงใหม่ การช่วยเหลือด้านราคาอาหารสัตว์ โดยเฉพาะส่วนที่นำเข้ามาจากต่างประเทศเช่น การงดเว้นการเก็บค่าธรรมเนียมหรือภาษี การจัดสินเชื่อพิเศษของธ.ก.ส. เพื่อให้เกษตรกรที่สามารถปฏิบัติตามหลักเกณฑ์เงื่อนไขได้ กลับมาเลี้ยงใหม่ในพื้นที่ความเสี่ยงต่ำ การกำหนดโซนเลี้ยงและออกมาตรการบังคับใช้อย่างเหมาะสมเพื่อควบคุมโรค 


จากนั้นจะนำผลสรุปเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายพัฒนาสุกรและผลิตภัณฑ์ (Pig Board) ที่มีรมว. เกษตรฯ เป็นประธาน เมื่อ Pig Board เห็นชอบจะเร่งดำเนินการเพื่อลดผลกระทบต่อประชาชนให้เร็วที่สุด

จากฐานข้อมูลทะเบียนเกษตรกรล่าสุด ผู้เลี้ยงสุกรทั้งประเทศมี 189,152 ราย กลุ่มที่มีจำนวนมากที่สุดคือ ผู้เลี้ยงรายย่อยซึ่งมีถึง 91.21% แต่ผลิตสุกรได้ 15.28% ของจำนวนสุกรทั้งประเทศ รายเล็กมี 12,477 ราย คิดเป็น 6.6% ผลิตสุกรได้ 12.89% รายกลางมี 3,856 ราย คิดเป็น 2.04%  ผลิตสุกรได้ 35.31% และรายใหญ่มีเพียง 291 ราย คิดเป็น 0.15% แต่สามารถผลิตสุกรได้ถึง 36.52% หรือประมาณ 1 ใน 3 ของสุกรทั้งประเทศ

ส่วนจำนวนผลผลิตสุกรในประเทศพ.ศ. 2563 และ 2564 จากข้อมูลขออนุญาตเคลื่อนย้ายในระบบ E-movement พบว่า ในพ.ศ. 2563 สุกรขุนทั้งประเทศมี 22.05 ล้านตัว ส่วนพ.ศ. 2564 มี 19.27 ล้านตัว โดยแบ่งเป็นเข้าโรงฆ่ามี 18.29 ล้านตัวและส่งออก 0.98 ล้านตัว ลดลง 12.61% จึงไม่ใช่ลดลง 30-40% ตามที่มีบางคนประเมิน 


นอกจากนี้กรมปศุสัตว์ยังสอบทานการลดลงของจำนวนสุกร ด้วยการคำนวณจากแม่พันธุ์ในพ.ศ. 2564 ซึ่งมี 0.963 ล้านตัว ลดลงจากปี 2563 ซึ่งมี 1.102 ล้านตัว คิดเป็น 13% ทั้งนี้แม่สุกร 1 ตัวให้สุกรขุน  20 ตัว ซึ่งสอดคล้องกับจำนวนแม่พันธุ์ ล่าสุดกรมปศุสัตว์กำหนดแนวทางแก้ปัญหาแม่พันธุ์สุกรที่ลดลง โดยจะให้เกษตรกรใช้สุกรขุนตัวเมียมาใช้ทำพันธุ์ชั่วคราวและเจรจาผู้เลี้ยงรายใหญ่กระจายลูกสุกรขุนแก่ผู้เลี้ยงรายย่อยและรายเล็กด้วยซึ่งจะทำให้จำนวนสุกรขุนในประเทศมีเพิ่มขึ้น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา เริ่มมีสัญญาณที่ดี-การสู้รบเงียบสงบ

สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สอด จ.ตาก เริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้น หลังการสู้รบเงียบสงบเกินกว่า 24 ชั่วโมง คาดมีการเจรจากันของกลุ่มต่อต้านและทางการเมียนมา หยุดยิงชั่วคราวเพื่อลดผลกระทบ

“บิ๊กโจ๊ก” ยื่น ป.ป.ช.อีกรอบ สอบตำรวจทำคดีเว็บพนันออนไลน์

“บิ๊กโจ๊ก” บุกสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) อีกครั้ง เพื่อยื่นหนังสือร้องทุกข์กล่าวโทษหัวหน้าและคณะพนักงานสอบสวนทั้งหมดในคดีเว็บพนันออนไลน์ที่มีการทำคดีโดยมิชอบ

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน-ใต้ พายุฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง ส่วนภาคใต้ มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศร้อนจัดบางแห่ง โดยมีฝนฟ้าคะนองเล็กน้อย