นายกฯ สั่งตรึงดีเซล30บาท “พลังงาน” ชงลดภาษีน้ำมัน

นายกฯ สั่งตรึงดีเซล30บาท “พลังงาน” ชงลดภาษีน้ำมัน

นายกฯ ประชุมด่วน “พลังงาน-พาณิชย์” ลดภาระค่าครองชีพ ตรึงดีเซลไม่เกิน 30 บาท สั่งดูแลราคาน้ำมันปาล์มให้เหมาะสม “พลังงาน” เตรียมแผนรับมือใช้กองทุนน้ำมันอุ้ม ชง “คลัง” ลดภาษีสรรพสามิต แบ่งเบาภาระกองทุน “อาคม” ห่วงน้ำมันดันเงินเฟ้อเกิน 3%

ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกสูงขึ้นช่วงที่ผ่านมาและทำให้ราคาน้ำมันดิบดูไบวันที่ 19 ม.ค.2565 บาร์เรลละ 86.49 ดอลลาร์ เป็นระดับใกล้เคียงกับ 87.50 ดอลลาร์ ที่คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ประเมินไว้เป็นระดับที่ควรขอให้กระทรวงการคลังลดภาษีสรรพสามิตน้ำมัน เพื่อลดผลกระทบเงินไหลออกของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่ต้องอุดหนุนราคาดีเซลไม่ให้เกินลิตรละ 30 บาท

ปัจจุบันราคาดีเซลของ ปตท.และบางจาก อยู่ที่ลิตรละ 29.94 บาท ในขณะที่รายอื่นนอกจากนี้เกินลิตรละ 30 บาท โดยราคาของเชลล์สูงสุดที่ลิตรละ 31.64 บาท

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เรียกผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงพลังงานมาหารือที่ทำเนียบรัฐบาล วานนี้ (20 ม.ค.) เพื่อติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าและพลังงานที่ปรับตัวสูงขึ้น

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรี ได้หารือเพื่อบริหารสถานการณ์ราคาพลังงานที่สูงต่อเนื่อง โดยมอบหมายให้นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน, นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เตรียมแผนบริหารจัดการแบบบูรณาการ

ทั้งนี้ กระทรวงพลังงานรายงานว่าได้ติดตามสถานการณ์พลังงานต่อเนื่องตั้งแต่ปลายปี 2564 และคงการตรึงราคาดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาท ผ่านกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อไม่ให้ภาคธุรกิจและภาคขนส่งได้รับผลกระทบ ส่วนก๊าซหุงต้มตรึงไว้ที่ 318 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม (ไม่รวมค่าขนส่ง) ถึงวันที่ 31 มี.ค.2565

นอกจากนั้น นายกรัฐมนตรี ติดตามค่าไฟฟ้าและสั่งการให้กระทรวงพลังงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบริหารจัดการเชื้อเพลิงที่ใช้ผลิตไฟฟ้าให้มีต้นทุนต่ำที่สุด เพื่อลดภาระค่า Ft ให้ได้มากที่สุด รวมทั้งพิจารณาการรักษาความมั่นคงด้านพลังงานในช่วงเปลี่ยนผู้รับสัมปทานในแหล่งเอราวัณ ซึ่งกระทรวงพลังงานยืนยันว่าจะจัดหาก๊าซธรรมชาติได้ต่อเนื่อง ทั้งเพิ่มการผลิตภายในประเทศและนำเข้า

ยืนยันตรึงราคาดีเซล30บาท

นายสมภพ พัฒนอริยางกูล โฆษกกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า กระทรวงพลังงานเตรียมแผนรองรับราคาพลังงานที่สูงขึ้น โดยคงมติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ในการใช้เงินสนับสนุนจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงอุดหนุนดีเซลเพิ่มเติมจากเดิมอีก 50 สตางค์ รวมเป็น 2.49 บาทต่อลิตร เพื่อรักษาระดับราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร

รวมทั้งใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงตรึงราคาก๊าซหุงต้มที่ราคา 318 บาทต่อถังขนาด 15 กิโลกรัม โดยขยายเวลาถึงสิ้นเดือน มี.ค.2565 และพยายามเพิ่มสภาพคล่องกองทุน้ำมันเชื้อเพลิงให้เร็วที่สุด โดยการกู้ตามที่คณะัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบขยายเพดานวงเงินกู้

ส่วนการขอลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันนั้น เดิมทีก็อยู่ในแผนรองรับวิกฤตการณ์ด้านน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่แล้ว ซึ่งกองทุนน้ำมันฯ จะต้องรักษาสภาพคล่องของกองทุนฯ พร้อมทั้งประเมินนโยบาย เพื่อแจ้งมายังกระทรวงฯ ซึ่งสถานการณ์ปัจจุบันจะยังใช้เงินกองทุนฯ เพื่อช่วยพยุงราคาน้ำมันอยู่ แต่ก็จะประเมินสถานการณ์ไปด้วยว่าจะรองรับและรับมือได้ถึงไหนอย่างไร

ขอลดภาษีสรรพสามิตน้ำมัน

นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กล่าวว่า สนพ.ได้เสนอแผนการขอลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันให้ปลัดกระทรวงพลังงาน เพื่อหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานแล้ว เพราะ สนพ.ได้ติดตามสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกพบว่าราคาสูงเกินคาดการณ์จากความต้องการน้ำมันที่สูงขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และปัญหาความไม่สงบในตะวันออกกลาง โดยล่าสุดตุรกีระงับการลำเลียงน้ำมันผ่านท่อส่งที่เชื่อมต่อระหว่างตุรกีและอิรักจากเหตุระเบิดที่ระบบการขนส่ง 

รวมทั้งสถานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงปัจจุบันติดลบ 8,782 ล้านบาท แบ่งเป็นบัญชีน้ำมันบวก 15,340 ล้านบาท และบัญชีแอลพีจีติดลบ 24,122 ล้านบาท ทำให้เงินกองทุนไหลออกต่อเดือนรวม 4,600 ล้านบาท ซึ่งยังไม่รวมเงินที่นำไปช่วยแอลพีจีอีกเกือบ 2,000 ล้านบาท

ทั้งนี้จากปัจจัยดังกล่าวการปรับขอลดภาษีน้ำมันถือว่าอยู่ในเงื่อนไของ กบง.ที่กำหนดว่าหากราคาน้ำมันดิบดูไบเกินบาร์เรลละ 87.50 ดอลลาร์ ซึ่งขณะนี้ราคาใกล้เคียงแล้วโดยวันที่ 19 ม.ค.2565 น้ำมันดิบดูไบอยู่ที่บาร์เรลละ 86.49 ดอลลาร์ จึงต้องเร่งหารือกับกระทรวงการคลัง ซึ่งก่อนหน้านี้ กบง.เคยเสนอขอลดภาษีน้ำมันที่ลิตรละ 1-2 บาท จากปัจจุบันเก็บลิตรละ 5.99 บาท แต่ยังไม่ได้รับพิจารณา

กองทุนน้ำมันเร่งกู้2หมื่นล้าน

นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) กล่าวว่า กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงกำลังจัดหาเงินกู้ตามมติ ครม.โดยเงินกู้ก้อนแรก 20,000 ล้านบาท เบื้องต้นมีธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสินและธนาคารกสิกรไทย ประสานขอข้อมูลเพิ่มเพื่อประกอบการการตัดสินใจ โดยมั่นใจแต่ละธนาคารจะยื่นข้อเสนอที่มีกำหนดยื่นถึงวันที่ 31 ม.ค.2565

ทั้งนี้ แม้ที่ผ่านมากระทรวงพลังงานคาดการณ์การเข้าสู่ฤดูร้อนในเดือน มี.ค.2565 จะทำให้การใช้พลังงานลดลง และราคาพลังงานอาจปรับลงด้วย แต่สถานการณ์ทางการเมืองในต่างประเทศทำให้ราคาน้ำมันโลกราคายังผันผวนและมีผลต่อราคาน้ำมันในไทย

“แต่ละเดือนเงินไหลออกจากกองทุนแบ่งค่าน้ำมัน 4,000 ล้านบาท รวมแอลพีจีก็ราว 6,000 ล้านบาท และหากราคาพลังงานยังสูงขึ้นจะกระทบเงินกองทุนแน่นอนถึงแม้ว่าจะมีกระแสเงินสดกว่า 20,000 ล้านบาท และแม้ว่าจะได้เงินกู้อีก 20,000 ล้านบาท แต่จะใช้พยุงน้ำมันได้ไม่กี่เดือน หากลดภาษีลงอาจช่วยลดเงินไหลออกได้”

“อาคม”ชี้น้ำมันเงินเฟ้อเกิน3%

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานเปิดสัมมนา “ศักราชใหม่...ความหวัง (หรือแค่ฝัน) ประเทศไทย 2022” และปาฐกถาพิเศษ “แรงขับเคลื่อนประเทศไทยในศักราชใหม่ 2022” จัดโดยบางกอกทูเดย์ ว่า รัฐบาลสั่งการให้กระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรฯ ดูแลปัญหาราคาสินค้าสูงขึ้น ส่วนราคาพลังงานมอบหมายให้กระทรวงพลังงานดูแลไม่ให้ดีเซลเกินลิตรละ 30 บาทต่อลิตร ผ่านกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง

สำหรับสถานการณ์เงินเฟ้อที่เกิดจากราคาพลังงานและอาหารสูงขึ้น โดยกระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะดูแลให้เงินเฟ้ออยู่ในกรอบ 1-3% แต่บางช่วงอาจเกิน 3% หแต่จะพยายามดูแลให้อยู่ภายใต้กรอบ

ด้านการเติบโตของเศรษฐกิจไทยปีนี้ จะขยายตัวได้ระหว่าง 3.5-4.5% ภายใต้แรงขับเคลื่อนหลัก

  1. การส่งออก
  2. การท่องเที่ยว
  3. การใช้จ่ายภาครัฐและการบริโภคภายในประเทศ

นักวิเคราะห์สถานการณ์น้ำมันไทยออยล์ ระบุว่า ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสและเบรนท์ปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังตลาดกังวลเกี่ยวกับอุปทานที่ตึงตัว จากเหตุระเบิดท่อส่งน้ำมันจากอิรักไปยังตุรกี นอกจากนี้ ยังมีเหตุการณ์ความไม่สงบจากการโจมตีของกลุ่มกบฏฮูตี ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งเป็นผลให้ผู้ผลิตรายใหญ่อันดับ3 ของOPEC ส่งผลให้เกิดความกังวลด้านอุปทานตึงตัวเพิ่มขึ้น อาจทำให้ราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นถึง 100 ล้านดอลลาร์ต่อบาร์เรล