“แอร์ไลน์” เร่งเพิ่มไฟลต์เข้าไทย เล็งจัดงาน “เวลคัม” ทัวริสต์จีน

“แอร์ไลน์” เร่งเพิ่มไฟลต์เข้าไทย เล็งจัดงาน “เวลคัม” ทัวริสต์จีน

“แอร์ไลน์” ตีปีกเพิ่มไฟลต์บินเข้าไทย หลังจีนดีเดย์ 8 ม.ค. ยกเลิกกักตัวขาเข้า “เซียะเหมิน แอร์ไลน์ส” ประเดิมเที่ยวบินแรก 9 ม.ค. เส้นทาง เซียะเหมิน-กรุงเทพฯ “ท่องเที่ยวฯ” เล็งจัดงานต้อนรับทัวริสต์จีนเข้าไทย “ททท.” ส่งเสริมบินลงสนามบินต่างจังหวัด เหตุ “สุวรรณภูมิ” แออัด

++ “เซียะเหมิน แอร์ไลน์ส” ประเดิมบิน 9 ม.ค.

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวภายหลังการประชุมเตรียมความพร้อมรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทยปี 2566 เมื่อวันที่ 5 ม.ค.2566 ที่ทำเนียบรัฐบาล ว่า หลังจากจีนเปิดประเทศ ประกาศยกเลิกมาตรการกักตัวขาเข้า มีผลตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค. 2566 เป็นต้นไป ส่งผลให้นักท่องเที่ยวจีนกลุ่มเดินทางด้วยตัวเอง (FIT) เริ่มออกเดินทาง ล่าสุดได้รับรายงานว่ามีสายการบินเริ่มทยอยกลับมาทำการบินอีกครั้ง โดยเที่ยวบินแรกในวันที่ 9 ม.ค. สายการบินเซียะเหมินแอร์ไลน์ส ทำการบินเส้นทาง เซียะเหมิน-กรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ) มีผู้โดยสารเดินทางมาเต็มลำประมาณ 200 คน

++ “ท่องเที่ยวฯ” แย้มอาจจัดงานต้อนรับทัวริสต์จีน

ส่วนในวันที่ 12 ม.ค. ทางนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม จะนำทีมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจราชการที่สนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อตรวจความพร้อมในการต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ทั้งนี้อาจจะมีการจัดงานต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนจากเที่ยวบินในวันที่ 9 หรือ 12 ม.ค. ด้วย แต่ยังต้องรอข้อสรุปอย่างเป็นทางการอีกที

“ทางสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) แจ้งว่ามีสายการบินแจ้งความประสงค์ทำการบิน เพื่อขอตารางทำการบิน (Slot) เส้นทางระหว่างไทย-จีน เข้ามาแล้ว หลังจากวิกฤติโควิด-19 กระทบต่อธุรกิจสายการบินอย่างหนัก ทำให้ต้องลดขนาดฝูงบินและปริมาณเที่ยวบินลง โดยจะมีการกระจายเที่ยวบินไปยังสนามบินในต่างจังหวัดมากขึ้น อาทิ ภูเก็ต เชียงใหม่ และจังหวัดอื่นๆ ในภาคอีสานและภาคใต้ เช่น เส้นทางบิน คุนหมิง-หาดใหญ่ทั้งนี้ทาง ททท.มีการวางแผนทำตลาด เตรียมขายแพ็คเกจท่องเที่ยวรองรับไว้แล้ว”

++ สุวรรณภูมิแออัด ส่งเสริมรูทบินกระจายลง ตจว.

นายชูวิทย์ ศิริเวชกุล ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวเสริมว่า ททท.ได้รับรายงานจากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) และสายการบินต้นทาง ว่าจะเริ่มกลับมาทำการบินเส้นทาง ไทย-จีน จริงๆ ตั้งแต่วันที่ 18 ม.ค.2566 จนถึงสิ้นสุดตารางบินฤดูหนาว 2022/2023 ในช่วงสัปดาห์ที่ 3 ของเดือน มี.ค.2566 โดยเส้นทางบินจากเซี่ยงไฮ้มีการฟื้นเที่ยวบินกลับมาไทยเร็วที่สุด เช่น จากสายการบินไชน่า อีสเทิร์น และ เซี่ยงไฮ้ แอร์ไลน์ส

โดยในวันที่ 18 ม.ค. จะมีสายการบิน 2 สาย ได้แก่ สายการบินสปริง แอร์ไลน์ส ทำการบินเส้นทาง กว่างโจว-เชียงใหม่ ความถี่ 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ และสายการบินจูนเหยา (Juneyao Airlines) ทำการบินเส้นทางเซี่ยงไฮ้-ภูเก็ต ความถี่ 7 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ และเส้นทาง เซี่ยงไฮ้-เชียงใหม่ ความถี่ 7 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ถือเป็นตัวอย่างของสายการบินที่ทำการบินเส้นทางสู่สนามบินในต่างจังหวัดของไทยมากขึ้น

“ปัจจุบันมีปัญหาเรื่องความสามารถในการรองรับภาคพื้นดินของสนามบินในไทยว่าจะรองรับได้มากน้อยขนาดไหนเพราะอย่างที่ทราบตอนนี้สนามบินสุวรรณภูมิค่อนข้างจะแออัด ยังมีอุปสรรคเรื่องกำลังคน ทาง ททท.จึงต้องส่งเสริมการขายให้สายการบินกระจายเส้นทางบินไปลงเมืองท่องเที่ยวอื่นๆ ของประเทศไทยมากขึ้น ทั้งนี้ ททท.คาดการณ์ว่าตารางบินฤดูร้อน 2023 ตั้งแต่ปลายเดือน มี.ค. ถึงปลายเดือน ต.ค.นี้ จะฟื้นตัว 70% เมื่อเทียบกับปี 2562 ก่อนโควิด-19 ระบาด”

 

++ ททท.คาดจีนเที่ยวไทยปีนี้ 5 ล้านคน

นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ ททท. กล่าวว่า ททท.ประเมินว่าในไตรมาส 1 ปีนี้ จะมีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าประเทศไทยทางอากาศในลักษณะฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป รวมประมาณ300,000 คน แบ่งเป็นเดือน ม.ค. 60,000 คน เดือน ก.พ. 90,000 คน และเดือน มี.ค. 150,000 คน ขยายตัว 15-20% ต่อเดือน

ททท.คาดการณ์ว่าตลอดปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาไทย 5 ล้านคน ทำให้มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทยทั้งหมดเพิ่มเป็น 25 ล้านคน จากคาดการณ์เดิมนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทย (ไม่รวมตลาดจีน) ไม่น้อยกว่า 20 ล้านคน โดย ททท.มั่นใจว่าดีมานด์ตลาดนักท่องเที่ยวจีนพร้อมกลับมาเที่ยวแบบล้างแค้น (Revenge Travel) และหนึ่งในแผนการโปรโมทดึงนักท่องเที่ยวจีน คือกลยุทธ์พาดาราหรือเซเลบริตี้เดินทางมาเที่ยวไทย เพราะเป็นกลยุทธ์ที่เคยใช้แล้วประสบความสำเร็จอย่างมากในช่วงก่อนเกิดวิกฤติโควิด-19

“ท่าทีของประเทศไทยกับการเปิดรับนักท่องเที่ยวจีน ผลต่างๆ เป็นบวก เพราะไทยไม่มีการต่อต้านนักท่องเที่ยวจากจีนที่จะเข้ามาในประเทศ จะทำเหมือนกันทุกชาติ แต่เนื่องจากนักท่องเที่ยวจีนเมื่อเดินทางกลับไปประเทศ ต้องมีผลตรวจ RT-PCR ไม่เกิน 48 ชั่วโมง จึงกำหนดให้มีการซื้อประกันสุขภาพ เพื่อจะได้มีคนดูแลค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้น ซึ่งเรื่องนี้ไม่ได้กระทบต่อจำนวนนักท่องเที่ยว เพราะราคาประกันสุขภาพที่จีนแค่ 400 บาทเท่านั้น” นายธเนศวร์กล่าว