‘ม็อบ3นิ้ว-ก้าวหน้า-ก้าวไกล’ โหมโรงเดินเกมยกเลิก ‘ม.112’

จากนี้ไปต้องรอดูว่า ส.ส.คนใด พรรคใด คือผู้กล้าที่ ‘คณะก้าวหน้า’ จะยกให้เป็น ‘รัฐบุรุษ’ ในการเสนอร่าง พ.ร.บ.แก้ไขประมวลกฎหมายอาญา เพื่อยกเลิกมาตรา 112 ความผิดฐาน หมิ่นประมาท หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ เข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภา

หลังจาก เลขาธิการคณะก้าวหน้า ปิยบุตร แสงกนกกุล ออกมาปูทางโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เร่งรัดให้ ส.ส.ผลักดันร่าง พ.ร.บ.แก้ไขประมวลกฎหมายอาญา เพื่อยกเลิกมาตรา 112 ให้เร็วที่สุด เนื่องจากมองว่าเป็นกฎหมายมีปัญหาในทุกมิติ โดยเฉพาะการนำมาบังคับใช้กับประชาชนที่กระทำผิดในปัจจุบันทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้น

ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า คือหน่วยกล้าตาย หลังออกมาไลฟ์สดหัวข้อ “วัคซีนพระราชทานฯ : ใครได้-ใครเสีย?” ซึ่งมีเนื้อหาพาดพิงสถาบันพระมหากษัตริย์ หวังสร้างแรงกดดันให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี บังคับใช้กฎหมายฉบับดังกล่าว

จนนำไปสู่การแจ้งความดำเนินคดีกับ ‘ธนาธร’ ว่ากระทำความผิดตาม ‘ม.112’ และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14 ของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (อีดีเอส)

สำทับด้วย อภิวัฒน์ ขันทอง กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง ตามคดีอาญาที่ 21/64 เอาผิด ‘ธนาธร’ 3 ข้อหาสำคัญ ทั้งความผิด ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560 ม.14 ความผิดฐานหมิ่นประมาท โดยการโฆษณาเช่นเดียวกัน

สอดรับกับการจัดกิจกรรมของ ‘กลุ่มราษฎร’ ทั้งการชูป้ายวัคซีน ‘พระราชทาน’ หน้าห้างไอคอนสยาม จนเกิดการกระทบกระทั่งกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในพื้นที่ ตลอดจนตระเวนติดป้ายข้อความ ม.112 ตามสถานที่ต่างๆ ก่อนจะถ่ายรูปลงโซเชียลมีเดีย

และล่าสุด 25 ม.ค.กลุ่มราษฎรได้รวมตัวชุมนุมที่่หน้าอาคารศรีจุลทรัพย์ ถนนพระราม 1 ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งของบริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด ตัวแทนประเทศไทยในการผลิตวัคซีนโรคโควิด-19 ของบริษัท แอสตราเซเนกา

นอกจากนี้ ยังมีความเคลื่อนไหวของพรรคก้าวไกล ที่ ส.ส.วิโรจน์ ลักขณาอดิสร เข้ายื่นหนังสือต่อปลัดกระทรวงสาธารณสุข เพื่อขอข้อมูลเกี่ยวกับสัญญาข้อตกลงและเงื่อนไขผูกพันระหว่างรัฐบาลกับแอสตราเซเนกา และสยามไบโอไซเอนซ์ ในการจัดหาและจัดซื้อวัคซีนป้องกันโควิด-19 รวมถึงงบประมาณสนับสนุนสยามไบโอไซเอนซ์ ทั้งหมด

ในขณะที่ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์​ 904 แม้จะปฏิเสธแสดงความคิดเห็นในประเด็นดังกล่าว เพื่อลดทอนอุณภูมิทางการเมือง แต่ได้สั่งการทหารทุกหน่วย เก็บแผ่นป้าย ลบข้อความเกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ในทุกพื้นที่

ทั้งนี้หน่วยงานความมั่นคง ได้วิเคราะห์ว่านี่คือ ปรากฎการณ์สร้างสภาวะแวดล้อมสอดรับกับการเดินเกมในสภา เพื่อเสนอร่าง พ.ร.บ.แก้ไขประมวลกฎหมายอาญา เพื่อยกเลิกมาตรา 112 หวังใช้มวลชนและองค์กรระหว่างประเทศ กดดันการทำงานของรัฐสภา

“ให้จับตาสถานการณ์การเมืองช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ และต่อเนื่องด้วยการประชุมร่วมกันเพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ แต่ที่น่าเป็นห่วงคือเดือนมีนาคม เพราะนอกจากจะมีการประชุมเพื่อพิจารณาลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระ 3 ไปพร้อมๆกับการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ในวาระที่ 2-3 แล้ว จะเป็นวันครบรอบการตั้งพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งเชื่อว่าจะใช้ห้วงเวลาดังกล่าวเสนอร่าง พ.ร.บ.แก้ไขประมวลกฎหมายอาญา เพื่อยกเลิกมาตรา 112 เข้าสู่สภา”

หน่วยงานความมั่นคง ชี้ชัดว่าการเปิดหน้าของ ‘ธนาธร’ คือสัญญาณบ่งชี้อุณภูมิการเมืองในห้วง 1-2 เดือนข้างหน้า ที่ต้องลุ้นว่ามีโอกาสปะทุรอบใหม่หรือไม่