นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เปิดเผยถึงแผนการส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้าในประเทศว่า ขณะนี้คณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ หรือ บอร์ดอีวี กำลังเร่งออกมาตรการส่งเสริมการใช้และการลงทุนในทุกมิติ ซึ่งในส่วนของรัฐบาลและกระทรวงการคลัง จะเข้าไปสนับสนุน 3 ด้าน 1. การปรับลดโครงสร้างภาษีสรรพสามิตเข้าไปช่วยสนับสนุนการใช้รถยนต์ไฟฟ้า 2.การหากลไกเข้าไปสนับสนุนราคารถยนต์ไฟฟ้าให้ราคาถูกลง และ 3. การส่งเสริมลงทุนสถานีชาร์จไฟฟ้า  

ปัจจุบัน ราคารถไฟฟ้าที่ยังมีราคาสูง อาจไม่จูงใจให้คนมาใช้ จึงต้องทำให้กลไกราคาใกล้เคียงกับรถยนต์ที่ใช้พลังงานน้ำมัน ส่วนของสถานีชาร์จไฟฟ้า อาจต้องใช้กลไกของสถาบันการเงินรัฐ เข้าไปช่วยปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ เพื่อสนับสนุนให้มีการลงทุนมากขึ้น ให้มีสถานีชาร์จกระจายทั่วประเทศ ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยสร้างความมั่นใจให้คนหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น 

“กลไกด้านราคาเราจะเข้าไปดูว่าจะเข้าไปสนับสนุนส่วนไหนที่ทำให้ราคาลดลงไปได้ ซึ่งอาจจะเป็นลักษณะกองทุน ซึ่งกำลังพิจารณาในคณะกรรมการ โดยขณะนี้คณะกรรมการมีแนวทางที่อยากให้ราคาใกล้เคียงรถยนต์สันดาป หรือที่ใช้น้ำมันให้มากที่สุด แต่ยังตอบไม่ได้ว่าราคาจะลดลงเหลือจำนวนเท่าไร ส่วนจะเห็นความชัดเจนได้ตอนไหนก็ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคณะกรรมการเช่นกัน”

นายอาคมกล่าวว่า รัฐบาลยังมีนโยบายส่งเสริมให้ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า โดยเฉพาะรถกระบะ ซึ่งไทยเป็นเจ้าตลาดผลิตรถกระบะขนาดใหญ่ของโลกอยู่ ก็อยากส่งเสริมให้เป็นศูนย์กลางผลิตรถกระบะไฟฟ้าด้วย โดยนอกจากจะผลิตเพื่อขายในประเทศแล้ว ยังต้องส่งเสริมให้มีการส่งออกควบคู่กัน ขณะเดียวกันนายกรัฐมนตรีได้กำชับให้หน่วยงานราชการนำร่องการใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น เช่น การจัดหา เช่า หรือซื้อรถยนต์ไฟฟ้ามาใช้ในส่วนราชการแทนรถยนต์ที่ใช้พลังงานน้ำมัน เพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ตามที่รัฐบาลไทยได้ประกาศเจตนารมย์ ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกกไซด์เป็นศูนย์ในเวที การประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือคอป 26 ที่ผ่านมา