นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน เปิดเผยว่า ช่วงต้นปี 2565 จะเสนอมาตรการในการส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้า (อีวี) ของไทยให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาแน่นอนตามกรอบเวลาที่เคยแจ้งไปแล้วว่าอย่างเร็วที่สุดคือปลายปี 2564 หรือในช่วงต้นปี 2565 ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้จัดทำรายละเอียดไว้แล้ว ขอให้รอความชัดเจนในการเสนอครม.อีกครั้ง

สำหรับการหารือกับ นายฮากิอูดะ โคอิจิ รมว.เศรษฐกิจ การค้าและอุตสาหกรรมญี่ปุ่น (เมติ) นายฮากิอูดะ ระบุว่า ญี่ปุ่นยังให้ความมั่นใจว่าประเทศไทยยังเป็นหุ้นส่วนทางการค้าที่สำคัญกับประเทศญี่ปุ่น และพร้อมสนับสนุนด้านการลงทุนต่อเนื่องหลังจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 คลี่คลายลงแล้ว ทั้งอุตสาหกรรมเดิมที่ญี่ปุ่นมีฐานการผลิตในไทยอยู่แล้ว อาทิ อุตสาหกรรมยานยนต์ ที่เตรียมขับเคลื่อนไปสู่อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าอย่างจริงจัง

รวมไปถึงอุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ที่ใช้เทคโนโลยี พลังงานสะอาด และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับบีซีจีด้วย โดยการลงทุนจริงของกลุ่มนักลงทุนญี่ปุ่นจะทยอยเกิดขึ้นแน่นอนในช่วงต่อจากนี้ไป ส่วนการลงทุนเดิมที่มีอยู่แล้วยังเดินหน้าต่อไป พร้อมร่วมมือทำในเรื่องใหม่ๆ เน้นเรื่องของอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพราะทุกคนเข้าใจถึงเรื่องของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในปัจจุบัน ซึ่งอุตสาหกรรมต่อไปนี้จะหันมาให้ความสำคัญกับเรื่องเหล่านี้มากขึ้น

ทั้งนี้ รัฐบาลมองเห็นถึงศักยภาพของประเทศไทยที่มีความพร้อมรับการลงทุนในเรื่องนี้เป็นอย่างดี เพียงแต่ต้องอาศัยความร่วมมือในด้านเทคโนโลยีจากต่างประเทศเข้ามาร่วมกันสนับสนุน ซึ่งญี่ปุ่นเองก็มีความพร้อมหลายๆ ด้านและพร้อมเข้ามาช่วยเหลือทั้งด้านเทคโนโลยี และการเงิน

สำหรับ ความร่วมมือกับทางญี่ปุ่นในการส่งเสริมอุตสาหกรรมใหม่ครั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) และสำนักงานนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) ยังได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (เจโทร) เพื่อร่วมกันต่อยอดการส่งเสริมอุตสาหกรรมเป้าหมายของไทยกับนักลงทุนญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น ซึ่งถือเป็นความร่วมมือก้าวสำคัญระหว่างสองประเทศ โดยหลังจากนี้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะรับหน้าที่ไปหาทางขับเคลื่อนการลงทุนให้เกิดขึ้นจริงต่อไป และในเร็วๆ นี้ หากโควิดคลี่คลายก็พร้อมนำคณะเดินทางไปญี่ปุ่น

ด้านนายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายฮากิอูดะ ยังได้เข้าหารือกับนายกรัฐมนตรี โดยนายกฯ ยินดีที่นายฮากิอูดะ ได้เลือกไทยเป็นประเทศแรกๆ ในการเยือนภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยถือเป็นการเยือนไทยครั้งแรกของรัฐมนตรีเมติ ในรอบ 5 ปี เชื่อมั่นว่าจะช่วยกระชับความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างไทยกับญี่ปุ่นในด้านเศรษฐกิจให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น โดยไทยในฐานะประธานเอเปกปี 2565 พร้อมร่วมมือกับญี่ปุ่นในประเด็นต่างๆ ที่เป็นผลประโยชน์ร่วมกันภายใต้กรอบเอเปก โดยเฉพาะโมเดลเศรษฐกิจบีซีจี ของไทยกับยุทธศาสตร์การเติบโตสีเขียวของญี่ปุ่น ทั้งในระดับทวิภาคีและระดับพหุภาคีให้เกิดผลลัพธ์เป็นรูปธรรม

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน