นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั้งในประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้าน สร้างความกังวลต่อการค้าชายแดนของไทย โดยเฉพาะชายแดนติดประเทศเมียนมา ที่คนในประเทศเมียนมาติดไวรัสสูง และส่งผลต่อการส่งออกลดลง 40% แล้ว เนื่องจากต้องปิดด่านและเข้มงวดในกระบวนการส่งออกไป ก็กำลังหารือหน่วยงานรัฐและเอกชนว่าจะปรับตัวอย่างไร เพราะสินค้าไทยยังเป็นที่ต้องการของประเทศเพื่อนบ้าน แต่ติดขัดในเรื่องการส่งออกและนำเข้าของประเทศปลายทาง
นายจุรินทร์ กล่าวว่า ส่วนการส่งออกโดยภาพรวม ทิศทางดีขึ้น ดูจากตัวเลขการส่งออกที่ติดลบลดลง จากเดือนมิถุนายน 23% เหลือลบ 7% ในเดือนสิงหาคม-กันยายน จนพฤศจิการยน ลบ 3.6% ทำให้ 11 เดือน ลบ 6.9% ดังนั้น ทั้งปี 2563 ก็จะลบไม่เกิน 7%
” ส่วนปีหน้ากระทรวงพาณิชย์ประเมินว่าจะบวกได้ 4% บนสมมุติฐานการแพร่ระบาดโควิดทั่วโลกคลี่คลาย และมีวัคซีนค้านไวรัสแพร่รายไม่เกินกลางปีหน้า อีกทั้งตามตัวเลขการประเมินทั่วโลก เช่น ธนาคารโลก มองว่าจีดีพีโลกกลับมาเป็นบวก ก็จะส่งผลต่อการส่งออกไทยปีหน้า ดีตัวสูงกว่าปีนี้ แต่หากโควิดรุนแรงหนัก ยืดเยื้อ ก็จะกระทบต่อการส่งออกบวกได้น้อยกว่าคาดการณ์ได้ ” นายจุรินทร์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามข้อมูล กรมการค้าต่างประเทศ เผยสถิติการค้าชายแดนและผ่านแดนของไทย ช่วง ม.ค.-ก.ย. ปี 2563 มีมูลค่ารวม 968,878 ล้านบาท ลดลง 4.88% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็นการส่งออก 563,953 ล้านบาท ลดลง 4.66% และการนำเข้า 404,925 ล้านบาท ลดลง 5.19% ไทยเกินดุลการค้า 159,028 ล้านบาท โดยการมูลค่าการค้ากับ เมียนมา มีมูลค่า 127,010 ล้านบาท และลดลงแล้ว 12.83%
