จิราพร เชื่อ รบ.สั่ง ‘คดีเหมืองอัครา’ เรื่องลับสุดยอด เหตุรองอธิบดีกรมอุตฯ ตอบปมฟ้องร้องไม่ได้

จิราพร เชื่อ รบ.สั่ง ‘คดีเหมืองทองอัครา’ เรื่องลับสุดยอด เหตุรองอธิบดีกรมอุตฯ ตอบปมฟ้องร้องไม่ได้ บ่ายเบี่ยงส่งผู้แทนให้ข้อมูลเป็นประโยชน์แจง กมธ.

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 3 กุมภาพันธ์ ที่ห้องประชุมกรรมาธิการ CA 310 ชั้น 3 อาคารรัฐสภา นายวรสิทธิ์ กัลป์ตินันท์ ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.)การอุตสาหกรรม สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า คณะ กมธ.การอุตสาหกรรม สภา ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อชี้แจงกรณีการต่อประทานบัตรเหมืองแร่ทองคำ (อัคราไมนิ่ง) ของบริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดทเต็ด ซึ่งได้รับการเสนอจากนายสุทิน คลังแสง และ น.ส.จิราพร สินธุไพร ส.ส.พรรคเพื่อไทย โดยเชิญหน่วยงานเข้าร่วมประชุม ประกอบด้วยปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม และอธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่

น.ส.จิราพรได้สอบถามหน่วยงานราชการว่า การปิดเหมืองทองด้วยเหตุอะไร โดยมีขั้นตอนให้เปิดหรือปิดอย่างไรบ้าง สำหรับการประทานบัตรทองคำใช้ระยะเวลาเร็วที่สุดกี่วัน และช้าที่สุดกี่วัน และอยากทราบเวลาที่ขออนุญาตขอ IEE/EIA/EHIA อย่างไร เนื่องจากประชาชนให้ความสนใจในประเด็นเหมืองทองคำอัคราไมนิ่งเป็นจำนวนมาก

รองอธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ กล่าวว่า ตนเป็นตัวแทนของอธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่เข้ามาชี้แจงจากสาเหตุการปิดเหมืองทองคำอัคราไมนิ่ง เกิดจากการร้องเรียนของประชาชนและกลุ่ม NGO ที่ร้องเรียนว่ามีสารพิษตกค้างอยู่ในพื้นที่ทำให้หน่วยงานราชการ ประกอบด้วย กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในขณะนั้น กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ตั้งคณะทำงานตรวจสอบร่วมเพื่อตรวจสอบสารพิษ การเจ็บไข้ได้ป่วยของประชาชน โลหะหนัก พบว่ามีสารหนูค่อนข้างสูง แต่ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าผลพิษมาจากแหล่งใดกันแน่

จากการที่สารพิษตกค้างนั้น คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. จึงสั่งหยุดการทำเหมืองทองคำอัคราไมนิ่งไว้ก่อน ภายในสิ้นปี พ.ศ.2559 โดยสั่งการหยุดตามมาตรา 44 ของคำสั่งหัวหน้า คสช. ในระหว่างนั้นได้มีการแก้ไข พระราชบัญญัติแร่ พ.ศ.2560 โดยมีข้อกำหนดที่มากขึ้น เช่น Baseline Data การทำ IEE/EIA/EHIA การที่จะต้องทำประชาคมโดยมีประชาชนมีส่วนร่วม สำหรับข้อมูลในการฟ้องร้องนั้น ตนไม่ทราบข้อมูล และยังเป็นความลับอยู่

Advertisement

เกี่ยวกับเรื่องนี้ น.ส.จิราพร ระบุเพิ่มเติมว่า รัฐบาลมีคำสั่งให้ปิดคดีเหมืองทองอัคราเป็นความลับสุดยอดใช่หรือไม่ หน่วยงานจึงบ่ายเบี่ยงไม่ส่งคนทีรับผิดชอบโดยตรงมาชี้แจง? วันนี้ (3 กุมภาพันธ์) คณะกรรมาธิการการอุตสาหกรรม สภาผู้แทนราษฎร โดยท่าน ส.ส.วรสิทธิ์ กัลป์ตินันท์ ประธานคณะกรรมาธิการ ได้เชิญกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ มาชี้แจงความคืบหน้ากรณีคดีเหมืองทองอัครา หลังจากที่ล่าสุดคณะอนุญาโตตุลาการได้เลื่อนการออกคำชี้ขาดออกไปแบบไม่มีกำหนด และมีการต่ออายุประทานบัตรเหมืองแร่ทองคำ 4 แปลงให้กับบริษัทคิงส์เกตฯ เปิดทางให้เหมืองทองอัคราสามารถกลับมาดำเนินการได้ ทั้งที่คดีพิพาทระหว่างบริษัทคิงส์เกตฯ กับราชอาณาจักรไทยยังไม่สิ้นสุด

“โดยปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมได้มอบหมายให้อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ เป็นผู้แทนเข้าชี้แจง และต่อมาอธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่มอบให้รองอธิบดีเข้าชี้แจงแทน ปรากฏว่าเมื่อถึงเวลาประชุมท่าน ส.ส.สุทิน คลังแสง จ.มหาสารคาม คณะกรรมาธิการ และดิฉันได้มีข้อซักถามหลายประเด็นเกี่ยวกับคดีที่เกิดขึ้น แต่ท่านรองอธิบดีแจ้งว่าไม่สามารถให้ข้อมูลในส่วนของเรื่องข้อพิพาทได้ เพราะไม่ได้อยู่ในคณะเจรจาระงับข้อพิพาทคดีเหมืองทองอัครา จึงไม่ทราบรายละเอียด และความคืบหน้าใดๆ

“ดิฉันเข้าใจว่าทางรัฐบาลเองคงจะมีคำสั่งให้ปิดเรื่องนี้เป็นความลับสุดยอดหรือไม่ จึงทำให้หน่วยงานพยายามบ่ายเบี่ยงไม่ส่งผู้แทนที่สามารถให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับทางกรรมาธิการมาเข้าร่วมประชุม อย่างไรก็ดี คดีเหมืองทองอัคราเป็นเรื่องที่อยู่ในความสนใจของชาวไทยทั้งประเทศ และเกี่ยวข้องกับงบประมาณแผ่นดิน และทรัพย์สมบัติชาติที่คนไทยทุกคนเป็นเจ้าของร่วมกัน หวังว่าในการประชุมรอบหน้า ผู้ที่รับผิดชอบการเจรจาคดีเหมืองทองอัคราจะให้เกียรติมาให้ข้อมูลกับตัวแทนของประชาชน”

Advertisement

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image