สภาเดือดส่งท้าย ฝ่ายค้านอภิปรายถล่ม รบ. ปมเหมืองอัครา-ค้าโรฮีนจา-สายสีเขียว

สภาเดือดส่งท้าย ฝ่ายค้านอภิปรายถล่ม รบ. ปมเหมืองอัครา-ค้าโรฮีนจา-สายสีเขียว

เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ การประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ซึ่งเป็นวันสุดท้าย ฝ่ายค้านอภิปรายหลายเรื่องทั้งเรื่องเหมืองทองอัครา เรื่องค้ามนุษย์โรฮีนจา รถไฟฟ้าสายสีขียว และอื่นๆ

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ ที่รัฐสภา น.ส.จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย (พท.) อภิปรายถึงคดีเหมืองทองอัคราตอนหนึ่งว่า ช่วง 2 ปีที่ผ่านมามีการเลื่อนออกคำชี้ขาดไม่ต่ำกว่า 4 ครั้ง ถามว่าใครขอเลื่อน เลื่อนเพราะอะไร ใครได้หรือเสียประโยชน์ เพราะมีข้อสังเกตว่าพอเลื่อนอ่านคำชี้ขาด ไม่นานประเทศไทยจะทยอยคืนสิทธิการทำเหมือง เพิ่มพื้นที่สำรวจแร่ทองคำและให้สิทธิอื่นๆ เกือบทุกครั้ง และตั้งแต่ประเทศไทยถูกบริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดเต็ด ลิมิเต็ด หรือคิงส์เกต ฟ้องร้อง รัฐบาลไทยไม่เคยชี้แจงเลยว่าคิงส์เกตฟ้องร้องประเด็นใดบ้าง และเรียกค่าเสียหายเท่าไหร่ ถ้าไทยแพ้คดีจะต้องจ่ายขั้นต่ำประมาณ 3 หมื่นล้านบาท

“การเปิดทางให้คิงส์เกตนำผงเงิน ผงทองคำ ที่ถูกอายัดไว้ไปขาย การให้สิทธิสำรวจแร่เกือบ 4 แสนไร่ การให้สิทธิประทานบัตร 4 แปลง เป็นส่วนหนึ่งของการประนีประนอมเจรจายอมความหรือไม่ คดียังไม่ถึงที่สุดรัฐบาลก็ให้สิทธิเปิดเหมืองทำต่อ เป็นไปได้อย่างไรที่คดีพิพาทในเหมืองเดิมพื้นที่ 3 พันกว่าไร่ยังไม่ได้ข้อยุติ แต่ตอนนี้นอกจากจะได้พื้นที่เดิมคืนยังได้สิทธิใหม่เพิ่มเติม เหมือนเป็นการสังเวยค่าโง่จากการใช้มาตรา 44 สั่งปิดเหมืองทองอัครา ถ้าคณะอนุญาโตตุลาการชี้ว่ามาตรา 44 ไม่มีสถานะทางกฎหมายจะกลายเป็นสึนามิที่สะเทือนถึงผู้ที่ออกมาตรา 44 ทั้งหมด” น.ส.จิราพรกล่าว

จากนั้น ร.อ.จองชัย วงศ์สายทอง ส.ส.ชลบุรี พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ลุกขึ้นมาชี้แจงปกป้อง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แต่ น.ส.จิราพร ประท้วงว่าควรให้ พล.อ.ประยุทธ์เป็นผู้ชี้แจงเอง

Advertisement

ต่อมา พล.อ.ประยุทธ์ ลุกขึ้นชี้แจงว่า ปี 2554 รัฐบาลขณะนั้นระงับต่อใบอนุญาตประทานบัตร 1 แปลง ด้วยเหตุความไม่ชัดเจนในหลายเรื่อง ทั้งปัญหาการฟ้องร้อง นอกจากนี้ ยังมีปัญหาเรื่องผู้ร้องเรียนเกี่ยวกับปัญหาเรื่องสุขภาพและสารพิษตกค้างจากการทำเหมือง เกิดขึ้นมาก่อนหน้ารัฐบาล คสช. เป็นหน้าที่ของรัฐบาล คสช.ที่ต้องทบทวนข้อกฎหมาย และกรอบนโนบายการทำเหมือง เพื่อลดปัญหาที่หมักหมม หลังปรับปรุง พ.ร.บ.การประกอบกิจการเหมืองแร่ มีการออกนโยบายการทำเหมืองแร่ใหม่ มีบริษัทเอกชนที่สนใจเข้ามาขอใบอนุญาตใหม่ และขอต่อใบอนุญาตเดิมกว่า 100 ราย เป็นการดำเนินงานตามปกติ ตามขั้นตอน ที่กฎหมายกำหนด

นายกฯชี้แจงว่า บริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดเต็ดลิมิเต็ด หรือคิงส์เกต ก็เป็นบริษัทหนึ่ง ถึงแม้ผู้ถือหุ้นของบริษัทจะมีคดีความฟ้องร้องกับรัฐบาลไทย แต่ไม่ได้เป็นข้อจำกัดที่มีต่อบริษัทอัครา รีซอร์สเซส ซึ่งเป็นบริษัทลูกของบริษัทคิงส์เกตที่จะขอต่อใบอนุญาต และได้ยื่นเอกสารเพิ่มเติมเพื่อขอต่ออายุทั้ง 4 แปลงที่ยังคงค้างอยู่ ตามกรอบเวลาสัมปทานที่เหลืออยู่ ทำตามขั้นตอนเหมือนบริษัทเอกชนอื่นๆ ไม่ได้เป็นการแลกเปลี่ยนใดๆ กับรัฐบาลทั้งสิ้น

“ส่วนการใช้มาตรา 44 ผู้อภิปรายพยายามชี้นำให้เกิดความเข้าใจผิด ไม่ควรมาผูกกับเรื่องเหมืองทอง ผมพร้อมรับข้อเสนอแนะ แต่ถ้าท่านมุ่งหวังว่าจะตีรัฐบาล จะล้มรัฐบาล จะเอานายกฯออกให้ได้ ผมว่าไม่ถูก เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ มีการเอาใบลาออกมาให้เซ็น ขอให้เก็บไว้ให้ตัวเองก็แล้วกัน เพราะผมยังไม่ลาออกทั้งนั้น” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

Advertisement

ต่อมา นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) อภิปรายเรื่องขบวนการค้ามนุษย์ ว่า เคยมีความพยายามปราบปรามขบวนการค้ามนุษย์โรฮีนจาเรียกเก็บเงินหัวละหลายหมื่น นำทีมสอบสวนโดย พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ช่วงปี 2558 ซึ่ง พล.ต.ต.ปวีณสืบไปถึงนักการเมืองท้องถิ่น ตำรวจ ทหาร แต่เจ้าของผลงานตัวจริงต้องลี้ภัยออกนอกประเทศ อุปสรรคที่ พล.ต.ต.ปวีณต้องเจอคือการขัดขวางกระบวนการสืบสวน การปิดบังพยานหลักฐานโดยตำรวจ นี่คือปัญหาของรัฐบาลที่ทำลายล้างคนซื่อสัตย์ ทำลายคนที่กล้าสู้กับสิ่งที่ไม่ถูกต้องเพื่อให้ประเทศนี้ดีขึ้น

จากนั้น นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส. มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย (พท.) อภิปรายว่า รถไฟฟ้าสายสีเขียวที่เป็นปัญหาในขณะนี้คือส่วนต่อขยายต่างๆ ที่บอกว่าสิ้นสุดในปี 2572 นั้นความจริงแล้วไม่ใช่ เพราะมีการจ้างให้วิ่งรถถึงปี 2585 แล้ว เรื่องนี้หลีกเลี่ยง พ.ร.บ.ร่วมทุน การกระทำที่ผิดกฎหมายของรัฐบาลคือขยายสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวล่วงหน้าไป 37 ปี ถึงปี 2602 อ้างคำสั่ง คสช.ที่ 3/2562 เป็นเครื่องมือในการล้างผิด เอื้อประโยชน์ ผูกขาด ตัดตอนให้เอกชนรายเดียว และจัดฉากสร้างหนี้ 37,000 ล้านบาท โดยให้ประชาชนนั่งฟรีตั้งแต่ปี’61 เพื่อแลกกับการขยายสัมปทานล่วงหน้า 37 ปี วันนี้พระรามประยุทธ์กำลังจะพารัฐมนตรีติดคุกทั้ง ครม.เพราะเรื่องนี้

ต่อมา พล.อ.ประยุทธ์ นายกฯ ชี้แจงนายยุทธพงศ์ ว่าขอบคุณในข้อห่วงใยในเรื่องของการแก้ปัญหาเรื่องรถไฟฟ้าสายสีเขียว ตอนนี้อยู่ในกระบวนการที่จะต้องนำผลการพิจารณาต่างๆ ทั้งร่างสัญญารวมลงทุนต่างๆ ที่นำมาเสนอ ครม.นั้น ครม.จะพิจารณาอย่างรอบคอบ เพื่อให้ถูกต้องตามกฎหมายและหลักการบริหารบ้านเมืองที่ดี รอบคอบและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติและประชาชน และต้องคำนึงถึงภาระการเงินขของรัฐที่จะต้องรับผิดชอบต่อไปด้วย ไม่ได้มุ่งหมายว่าจะไปเอื้อประโยชน์กับใคร หรือต้องการที่จะทิ้งทวนอย่างที่กล่าวหา

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image