จุรินทร์ สั่งลุย 667 จุดขายหมูถูก ลดราคาหมูเนื้อแดงเหลือ 150 บาท

จุรินทร์ สั่งลุย 667 จุดขายหมูถูก ในโครงการพาณิชย์ลดราคาหมู

จุรินทร์ “สั่งลุย” 667 จุดบริการขายหมูราคาถูก! ช่วยประชาชน พร้อมกำชับพาณิชย์จังหวัด 76 จังหวัดทั่วประเทศ ตรวจตลาด-ปิดป้ายราคามอนิเตอร์ราคาสินค้าทั่วประเทศ ปฏิบัติการเชิงรุก ช่วยประชาชนทันท่วงที

วันที่ 8 มกราคม 2565 นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ กำชับสำนักงานพาณิชย์จังหวัด 76 แห่งทั่วประเทศติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าเนื้อหมู ที่มีการจำหน่ายให้กับประชาชนผ่านทั้งห้างสรรพสินค้าและตลาด เบื้องต้นพบว่า ราคาหมูเนื้อแดงจำหน่ายอยู่ที่กิโลกรัมละ 160-200 บาท

“ประชาชนที่ซื้อเนื้อสุกรชำแหละ ส่วนใหญ่นำไปปรุงอาหารสำเร็จรูป นำไปจัดจำหน่ายและบริโภคตามปกติ จากการติดตามผู้ประกอบการการค้ายังไม่ได้ปรับราคาอาหารปรุงสำเร็จ แต่หันมาใช้วัตถุดิบจากเนื้อสัตว์ประเภทอื่น อาทิ เนื้อปลา เนื้อไก่ ทดแทนเนื้อสุกรเพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้า”

ล่าสุดกระทรวงพาณิชย์ได้ออกประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ห้ามส่งออกหมูเป็น (สุกรมีชีวิต) ใน 3 เดือนนี้เพื่อเพิ่มปริมาณหมูเป็นในการบริโภคภายในประเทศ พร้อมกับการตรวจสต๊อกหมูแต่ละแห่งด้วย นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ ยังได้สั่งการให้พาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศสำรวจเขียงหมูและการเพิ่มปริมาณเนื้อหมูในตลาดระหว่างนี้ด้วย

ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ ยังดำเนินโครงการพาณิชย์ลดราคาหมู! ช่วยประชาชน (ครั้งที่ 2) ต่อเนื่องจากครั้งแรกที่ได้ดำเนินโครงการในช่วงปีที่ผ่านมา เพื่อลดภาระค่าครองชีพและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน และได้ขยายต่อ ในต้นปี 2565 นี้ โดยประชาชนสามารถเลือกซื้อหมูเนื้อแดงได้ในราคา 150 บาทต่อกิโลกรัมได้ โดยสามารถเช็คจุดจำหน่ายกับสำนักงานพาณิชย์จังหวัดในเขตที่อาศัยอยู่ได้ ทั้งหมด 667 หน่วยบริการ

“กรุงเทพมหานครมี 116 หน่วยบริการ แยกเป็นรถโมบายตระเวนตามพื้นที่ 50 คัน ตั้งจุดบริการ 50 แห่ง รวมสมาคมอีก 16 แห่ง ส่วนต่างจังหวัด 551 แห่ง รวมเป็น 667 หน่วยบริการ ให้พาณิชย์จังหวัดประสานงานกับตลาดหรือสถานที่จัดโครงการพาณิชย์ลดราคาหมู”

อย่างไรก็ดี ได้กำชับเจ้าหน้าที่ของสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ ติดตามดูแล สำหรับผู้ประกอบการที่เข้าโครงการ พาณิชย์ลดราคาหมู แจ้งกำชับผู้ประกอบการห้ามฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าหรือจำหน่ายสินค้าราคาสูงเกินสมควร ห้ามกักตุนสินค้าและแนะนำให้มีการปิดป้ายแสดงสินค้าจำหน่ายให้ครบถ้วนถูกต้องและชัดเจนเพื่อให้ประชาชนได้เปรียบเทียบก่อนตัดสินใจซื้อ

ขายดีขึ้น

นางสาวอรัญญา ครุฑคาบแก้ว ตลาดสดมหาราชเทศบาลเมืองกระบี่ กล่าวว่า หลังจากที่ทางพาณิชย์ได้มีโครงการหมู่พาณิชย์ลดราคาหมูเนื้อแดงราคา 150 บาทเมื่อลูกค้าเห็นก็แวะซื้อทันทีไม่ลังเลยอมรับว่าหลังเข้าร่วมโครงการวันนี้ยอดขายดีขึ้น

มอนิเตอร์ราคาสินค้า

นางมัลลิกา กล่าวอีกว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ สั่งการให้หน่วยงายภายใต้กระทรวงพาณิชย์จะต้องทำงานเชิงรุก เพื่อให้บริการและดูแลราคาสินค้าอุปโภคบริโภคให้กับประชาชนอย่างทันท่วงที พร้อมทั้ง มอนิเตอร์ราคาสินค้าทุกรายการทั่วประเทศ โดยขณะนี้ได้สั่งการให้กรมการค้าภายในเตรียมรายการสินค้าที่สามารถลดราคาช่วยประชาชนเพิ่มเติม นอกเหนือจากโครงการพาณิชย์ลดราคา! ช่วยประชาชน Lot16 โดยขณะนี้ อยู่ระหว่างประสานขอความร่วมมือของภาคเอกชนผู้ประกอบการต่างๆ

“ขณะนี้ กรมฯกำลังประชุมหารือติดตามราคาไก่ และติดตามสถานการณ์สินค้าเกษตร เบื้องต้นพบว่า ล่าสุดเดือนธันวาคม 2564 สถานการณ์ข้าวเปลือกเหนียวราคาเพิ่มขึ้นตามความต้องการของตลาดที่มีอยู่ต่อเนื่องทั้งประเทศและต่างประเทศ ข้าวเปลือกจ้าวราคาเพิ่มขึ้น ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ราคาเพิ่มขึ้นผลผลิตอยู่ในตลาดน้อยผู้ประกอบการมีความต้องการสินค้าจึงเสนอราคาปรับตัวสูงขึ้น มันสำปะหลังราคาสูงขึ้นผลผลิตออกสู่ตลาดน้อย”

อย่างไรก็ตาม ในภาวะโรคระบาด Covid-19 ที่เกิดขึ้นทั่วโลกนี้ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่จะต้องทำงานตั้งรับและทำงานเชิงรุก จะต้องดูแลสถานการณ์ซึ่งอยู่ปลายน้ำของกระบวนการผลิตทั้งหมด พร้อมต้องดูแลควบคุมปัญหาอย่างใกล้ชิดทุกวันหากประชาชนมีเรื่องเดือดร้อนทางด้านราคาสินค้าที่ไม่เป็นไปตามกลไกหรือเกิดความยุติธรรมสามารถแจ้งร้องเรียนร้องทุกข์ได้ที่ 1569 สายด่วนกรมการค้าภายในกระทรวงพาณิชย์

ATK พบค้ากำไรเกินควร ร้อง 1569

นางมัลลิกา กล่าวเพิ่มว่า การติดตามดูแลราคาและสถานการณ์จำหน่ายชุดตรวจโควิด-19 แบบหาแอนติเจนด้วยตนเอง (ATK) เนื่องจากมีแนวโน้มราคาสูงขึ้น ภายหลังความต้องการใช้เพิ่มขึ้น กรมการค้าภายใน และสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทุกจังหวัดทั่วประเทศ ได้ติดตามสถานการณ์ราคาและการจำหน่าย ATK อย่างใกล้ชิดอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว ตั้งแต่ที่กระทรวงสาธารณสุขอนุญาตให้ขายได้ในท้องตลาด ทั้งการขายแบบออฟไลน์ หรือร้านขายยาทั่วไป และการขายผ่านออนไลน์


“ถ้าประชาชนพบเห็นผู้ค้ารายใด ขายราคาแพงเกินสมควร หรือค้ากำไรเกินควร สามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน โทร 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทุกแห่งทั่วประเทศ จะส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบ หากพบการกระทำผิดจริง จะมีความผิดตามมาตรา 29 พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการพ.ศ.2542 มีโทษปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ”