พัทยาไม่พร้อมรับต่างชาติ จี้รัฐจัดสรรวัคซีน 9 แสนโดส

ผู้ประกอบการเมืองพัทยาไม่พร้อมเปิดเมือง เพิ่งได้ฉีดวัคซีน 6 หมื่นโดส เฉลี่ยไม่ถึง 10% แนะรัฐบาลคุมโควิด-19 ก่อน หากประเทศไม่ปลอดเชื้อนักท่องเที่ยวต่างชาติคงไม่มา

นายพิสูจน์ แซ่คู นายกสมาคมโรงแรมภาคตะวันออก เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ถือเป็น 1 ใน 10 หัวเมืองหลักที่จะเปิดเมืองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งเดิมมีการวางแผนจะเปิดเมืองพัทยาในวันที่ 1 สิงหาคม 2564

ปัจจุบันมีสถานประกอบการที่ผ่านมาตรฐาน SHA ประมาณ 1,000 แห่ง แต่ด้วยเงื่อนไขสถานประกอบการต้องผ่าน SHA Plus คือพนักงานภายในสถานประกอบการต้องได้รับการฉีดวัคซีน 70% ถึงจะสามารถเปิดบริการรับนักท่องเที่ยวได้ ตอนนี้ในเมืองพัทยาเฉลี่ยการฉีดวัคซีนยังไม่ถึง 10% จึงขึ้นอยู่กับรัฐบาลว่าจะสามารถทำได้ตามแผนที่วางไว้หรือไม่

“ตอนนี้ยังไม่มีสถานประกอบการใดที่ผ่าน SHA+ เนื่องจากพนักงานยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน เฉพาะเมืองพัทยาตามแผนต้องการได้รับจัดสรรวัคซีน 9 แสนโดส แต่ปัจจุบันมีวัคซีนเข้ามาเพียง 50,000-60,000 โดส เฉลี่ยยังไม่ถึง 10% ถือว่าช้า จึงอยากให้รัฐบาลเร่งดำเนินการ” นายพิสูจน์กล่าวและว่า

เมืองพัทยาจะเดินตามแผนที่กำหนดไว้ได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับรัฐบาลว่าจะสามารถทำได้ตามแผนที่วางไว้หรือไม่ หากถามว่าผู้ประกอบการในเมืองพัทยาพร้อมจะเปิดเมืองหรือไม่

ยอมรับว่าตอนนี้มีความกังวลเรื่องการแพร่ระบาดของโควิดในประเทศที่ไม่สามารถควบคุมได้ การฉีดวัคซีนยังไม่ถึง 10% ผู้ประกอบการก็ไม่พร้อมที่จะเปิดประเทศ ขณะเดียวกัน

การบริหารวัคซีนที่รัฐบาลบอกว่ามีการนำเข้าแล้ว ต้องตอบประชาชนให้ชัดเจนว่านำไปจัดการในส่วนไหน หากเทียบสถานการณ์ก่อนหน้านี้ที่มีความต้องการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ เพราะช่วงนั้นประเทศไทยพบการติดเชื้อโรคโควิด-19 น้อย

“ต้องบอกว่าประเทศไหนปลอดโรคก็เป็นที่น่าสนใจของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ถ้าหากสถานที่ท่องเที่ยวเราปลอดภัย สามารถควบคุมการระบาดได้ ความต้องการของนักท่องเที่ยวจะเข้ามา

แต่ตอนนี้การแพร่ระบาดควบคุมไม่ได้ ถ้ารัฐบาลบริหารแบบนี้เราก็ไม่พร้อมที่เปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ส่วนด้านนักท่องเที่ยวคงไม่อยากเสี่ยง เพราะฉะนั้น ต้องสามารถควบคุมการระบาดในประเทศให้ได้ก่อน”

สำหรับแผนการเปิดเมืองพัทยายังคงต้องเดินหน้าสำหรับมาตรการต่าง ๆ จะคล้ายกับ “ภูเก็ตแซนด์บอกซ์” แต่จะมีความแตกต่างคือ สถานประกอบการที่ผ่าน SHA+ และต้องการจะรับนักท่องเที่ยวต่างชาติต้องมาสมัครอีกรอบเพื่อที่จะรับเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติเท่านั้น

เพื่อไม่ให้ปะปนกับนักท่องเที่ยวชาวไทย เช่น โรงแรมที่รับต่างชาติจะไม่ให้รับชาวไทย หรือถ้าหากมีหลายตึกจะต้องแยกตึกเข้าพักส่วนสถานที่ท่องเที่ยวอาจจะมีแบ่งวัน

หรือแบ่งเวลาเข้าชมขึ้นอยู่กับสถานประกอบการนั้น ส่วนเรื่องการจัดโปรโมชั่นเพื่อดึงดูดลูกค้าปัจจุบันยังไม่มีแผน ข้อปฏิบัติยังไม่แน่นอน จึงต้องรอพิจารณาสถานการณ์ก่อน

“ในเดือนสิงหาคมคาดว่านักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาน่าจะยังไม่มาก แต่ต้องมีการเตรียมพร้อมที่จะเปิด อาจจะมีการเปิดแบบ soft opening ก่อน เพื่อดูปัญหาและแก้ไข แต่เดือนตุลาคมจะเป็นเปิดรับนักท่องเที่ยวจริงจัง”

ตอนนี้รอดูสถานการณ์เปิดเมืองของภูเก็ต 1-2 สัปดาห์ก่อน เพราะสถานการณ์ตอนนี้ไม่ดี ตัวเลขติดเชื้อโควิดในประเทศยังเพิ่มขึ้น ความหวังอยู่ในช่วงไตรมาส 4 ซึ่งนักท่องเที่ยวโซนยุโรปหนีหนาวมา

ปกติจะจองที่พัก 1-2 เดือน หากรัฐบาลไม่สามารถควบคุมสถานการณ์โควิด ในเดือนกรกฎาคม-สิงหาคมได้ ช่วงไตรมาส 4 ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติคงหายไปเหมือนกัน”

นอกจากนี้ แผน Pattaya move on เปิดเมืองแบบไม่กักตัวไตรมาส 4 มีเงื่อนไขให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาจะต้องได้รับวัคซีนครบ 2 โดส ไม่ต้องกักตัว 14 วัน และต้องมีที่พักอยู่ในพื้นที่ อ.บางละมุง และ อ.สัตหีบ

อย่างน้อย 7 วันก่อนที่จะเดินทางออกไปยังพื้นที่อื่น ๆ ภายใต้แนวคิด Neo Pattaya ซึ่งเป็นการท่องเที่ยวที่เน้นสร้างความมั่นใจและความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยว โดยทางเมืองพัทยา, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเมืองพัทยา


และภาคธุรกิจ ร่วมกันจัดทำขึ้นมาตอนนี้ได้มีการนำเสนอต่อกระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้ความเห็นชอบก่อนจะผ่านไปยังศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ (ศบศ.) และส่งต่อไปให้ ศบค.พิจารณาอนุมัติ